นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีรัฐบาลมาแล้ว 5 ชุด และมีนายกรัฐมนตรี 5 คน โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่าบุคลากรทางการเมืองที่โลดแล่นภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ทั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่เป็นภรรยา บุตร ญาติ พี่น้อง ลูกน้อง หรือ "นอมินี" ของแกนนำพรรคไทยรักไทยแทบทั้งสิ้น เนื่องจากแกนนำเหล่านี้มิอาจลงสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้ามาแสดงบทบาททางการเมืองอย่างเป็นทางการได้ อันเป็นผลมาจากคำพิพากษาของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ที่ให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจำนวน 111 คน เป็นระยะเวลา 5 ปี จากคดีการว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในการเลือกตั้งปี 2549
จะเห็นได้ว่าบรรดาอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหรือที่เรียกว่า "สมาชิกบ้านเลขที่ 111" ไม่ได้ห่างหายไปจากเวทีการเมือง เพียงแต่ขยับไปอยู่หลังฉากและคอยทำหน้าที่กำกับเกมการเมืองเบื้องหลังแทน บางส่วนยังคงอยู่กับพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ขณะที่บางคนได้หันไปฟื้นพรรคการเมืองเก่า และบางส่วนได้ไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ หลายโอกาสสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และสมาชิกบ้านเลขที่ 109 (พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเมื่อปลายปี 2551) ต่างออกมาแสดงบทบาททางการเมืองอย่างชัดเจน เช่น การจัดตั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมารองรับพรรคเดิมที่ถูกยุบ เป็นต้น ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย อาทิ ไม่เคารพคำพิพากษาของตุลาการรัฐธรรมนูญ หรือในทางตรงกันข้ามก็มีนักการเมืองและนักวิชาการบางส่วนโต้แย้งว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นผลไม้พิษที่เกิดจากการรัฐประหารและเรียกร้องให้มีการลบล้างผลพวงที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าบรรดาอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหรือที่เรียกว่า "สมาชิกบ้านเลขที่ 111" ไม่ได้ห่างหายไปจากเวทีการเมือง เพียงแต่ขยับไปอยู่หลังฉากและคอยทำหน้าที่กำกับเกมการเมืองเบื้องหลังแทน บางส่วนยังคงอยู่กับพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ขณะที่บางคนได้หันไปฟื้นพรรคการเมืองเก่า และบางส่วนได้ไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ หลายโอกาสสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และสมาชิกบ้านเลขที่ 109 (พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเมื่อปลายปี 2551) ต่างออกมาแสดงบทบาททางการเมืองอย่างชัดเจน เช่น การจัดตั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมารองรับพรรคเดิมที่ถูกยุบ เป็นต้น ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย อาทิ ไม่เคารพคำพิพากษาของตุลาการรัฐธรรมนูญ หรือในทางตรงกันข้ามก็มีนักการเมืองและนักวิชาการบางส่วนโต้แย้งว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นผลไม้พิษที่เกิดจากการรัฐประหารและเรียกร้องให้มีการลบล้างผลพวงที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารด้วยเช่นกัน
หลังจากวันที่ 30 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะได้รับสิทธิการเลือกตั้งอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานทางการเมืองตามกฎหมายกลับคืนมา ส่งผลให้สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่าง ๆ อย่างเป็นทางการได้ อีกทั้งเป็นที่รับรู้กันมาตลอดว่าเมื่อพ้นระยะเวลาการถูกตัดสิทธิดังกล่าว นักการเมืองเหล่านี้จะได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรี "ตัวจริง" แทนนอมินีของแต่ละคน การออกมายืนแถวหน้าเช่นเดียวกับในอดีตจึงเป็นเรื่องที่หลีกหนีไม่พ้น อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างความปรองดอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล้วนมีส่วนเชื่อมโยงกับบุคลากรทางการเมืองเหล่านี้ ฉะนั้นเป็นที่น่าจับตาว่าก้าวย่างของนักการเมืองเหล่านี้จะทำให้การเมืองไทยมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร
ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับกลาง (บสก.) รุ่นที่ 3 จึงกำหนดให้มีการจัดเสวนาสาธารณะเรื่อง "พลวัตทางการเมืองหลัง 111 คืนชีพ ???" ขึ้น เพื่อตอบสนองการรับรู้ข่าวสารและความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่าง ๆ ให้สังคมไทยและทุกภาคส่วนได้ช่วยกันแสดงความเห็นตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย ทั้งยังเป็นการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนไทย ที่สำคัญยังเป็นการช่วยพัฒนาการเมืองการปกครองในระบบประชาธิปไตยของไทยอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับกลาง (บสก.) รุ่นที่ 3 จึงกำหนดให้มีการจัดเสวนาสาธารณะเรื่อง "พลวัตทางการเมืองหลัง 111 คืนชีพ ???" ขึ้น เพื่อตอบสนองการรับรู้ข่าวสารและความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่าง ๆ ให้สังคมไทยและทุกภาคส่วนได้ช่วยกันแสดงความเห็นตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย ทั้งยังเป็นการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนไทย ที่สำคัญยังเป็นการช่วยพัฒนาการเมืองการปกครองในระบบประชาธิปไตยของไทยอีกทางหนึ่งด้วย